ใครที่ลงทุนในกองทุน LTF ในปีปฏิทิน 2554 ตั้งแต่วันนี้จะเริ่มขายหน่วยลงทุนได้แล้ว ซึ่งให้ผลตอบแทนรวมมากกว่า 50% เลยทีเดียว
ดัชนีหุ้นไทยวันทำการสุดท้ายของปี 2554 (30/12/2554) อยู่ที่ 1025.32 จุด ผ่านมาจนถึงวันนี้ดัชนีอยู่ที่ 1483.25 จุด เพิ่มขึ้นมาถึง 44.66%
นั่นคือถ้าใครลงทุนกองทุน LTF ในวันทำการสุดท้ายของปี 2554 และมาขายคืนในวันแรกของปีปฏิทินนี้ ผลตอบแทนควรจะมากกว่า 44.66%
ผมยกตัวอย่างกองทุน KFLTFDIV ของบลจ.กรุงศรีที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 5 ปีย้อนหลังในบรรดากองทุนรวมหุ้น LTF ราคา NAV ณ วันที่ 30/12/2554 อยู่ที่หน่วยละ 18.51495 บาท ถ้ามาขายคืนวันนี้ 5/1/2558 ที่ราคา NAV 26.1545 บาท จะมี Capital Gain หรือส่วนต่างราคาถึงหน่วยละ 7.63955 บาท รวมเงินปันผลตลอด 3 ปีอีกหน่วยละ 2.50 บาท
เพราะฉะนั้นตลอด 3 ปีที่ลงทุนในกองทุนรวม KFLTFDIV จะได้ Capital Gain (ส่วนต่างราคา) + เงินปันผล ที่หน่วยละ 10.13955 บาท
ถ้าเราลงทุนกองทุนรวม KFLTFDIV ณ วันที่ 30/12/2554 มูลค่า 50,000 บาท (ต่อแรกที่ได้คือการประหยัดภาษีตามฐานภาษีของท่าน) ณ ราคา NAV 18.51495 จะได้หน่วยลงทุน 2,701.4006 หน่วย มาขายคืนวันที่ 5/1/2558 ที่ราคา NAV 26.1545 บาท
จะได้เงินคืนทั้งหมด 77,390.98 (เงินส่วนต่าง + เงินปันผลระหว่างทาง)
กำไรประมาณ 54.78%
เนื่องจากเป็นกองทุนลดหย่อนภาษี ถ้าท่านเอาเงินที่ลดหย่อนได้มาคิดรวมเป็นผลตอบแทนด้วยจะได้ฐานภาษี 10% + เข้าไปอีก 5,000 (กำไร 64.78%) ฐานภาษี 20% + เข้าไปอีก 10,000 บาท (กำไร 74.78%)
นี่คือผลตอบแทนของการลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่เป็นทางเลือกหนึ่งของการออมเงินที่ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคารและประหยัดภาษีเป็นผลพลอยได้ครับ
No comments:
Post a Comment