ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นอีก 1 สัปดาห์ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือว่าผันผวนและส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก...
หลังจากเปิดสัปดาห์มาด้วยการลบลงกว่า 300 จุด ประมาณ 2% จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนที่เปิดเผยออกมาไม่ดีนัก..เลยทำให้นักลงทุนกังวล (อีกแ...ล้ว) ต่อภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ IMF เพิ่งปรับคาดการณ์ GDP โลกขึ้นด้วยซ้ำ...(งงมั้ย??)
ตลาดหุ้นเอเชียก็พลอยได้อานิสสงค์ติดลบกันถ้วนหน้า ญี่ปุ่นเห็นจะหนักสุดที่ -4% กว่า เงินทุนไหลออกจากประเทศในแถบเอเชียและตลาดเกิดใหม่ถ้วนหน้า
พี่ไทยไม่ต้องพูดถึงต่างชาติขายสุทธิวันนึงเฉลี่ย 3-4 พันล้าน มีวันศุร์สุดสัปดาห์ที่ยอดขายสุทธิชะลอตัวลงหน่อยแต่ถ้าดูในกลุ่ม TIPs (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) ไทยก็ถือว่าโดนหนักสุดเพราะมีปัจจัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แถมก่อนหน้านี้มีบทวิเคราะห์ของต่างประเทศออกมาบอกว่าถ้าดูตลาดในแถบอาเซียน...อินโดนีเซียถือว่าดีที่สุดตอนนี้ และเงินทุนจากต่างชาติที่มาลงทุนไทยไปลงทุนในอินโดนีเซียตอนนี้ดูจะให้ผลตอบแทนดีกว่า
แม้ช่วงปลายสัปดาห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะฟื้นกลับมาได้...จากตัวเลขเศรษฐกิจการส่งออกของสหรัฐฯที่ออกมาดี ผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดส่วนใหญ่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
แต่ถ้าพิจารณาจากกราฟก็พบว่าหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทำ NewHigh มาตลอดหลังจากข่าว Fed เริ่มถอนมาตรการ QE ในปีนี้ ก็เริ่มมีแรงเทขายออกมา...
และเริ่มเห็นบทวิเคราะห์จากสำนักข่าวต่างประเทศเริ่มตั้งคำถามว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ภาวะ "หมี" หรือยัง?
พิจารณาแนวโน้มจาก Indicator ต่างๆ สัปดาห์นี้ดาวโจนส์มีแนวต้านสำคัญที่ 16000 จุด (ณ วันศุกร์อยู่ที่ 15794.08) มีแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดคือ 15400 จุด
ดูจาก MACD ถ้าไม่ตัด 0 ขึ้น ก็คงเข้าสู่ภาวะ SidewayDown ส่วน RSI ยังยื้ออยู่ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย...
ปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้ไม่มีนัยยะสำคัญมาก เป็นตัวเลขทั่วไป ยอดค้าปลีก จำนวนคนว่างงาน ตัวเลขเศรษฐกิจจีน...
หลังจากเปิดสัปดาห์มาด้วยการลบลงกว่า 300 จุด ประมาณ 2% จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนที่เปิดเผยออกมาไม่ดีนัก..เลยทำให้นักลงทุนกังวล (อีกแ...ล้ว) ต่อภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ IMF เพิ่งปรับคาดการณ์ GDP โลกขึ้นด้วยซ้ำ...(งงมั้ย??)
ตลาดหุ้นเอเชียก็พลอยได้อานิสสงค์ติดลบกันถ้วนหน้า ญี่ปุ่นเห็นจะหนักสุดที่ -4% กว่า เงินทุนไหลออกจากประเทศในแถบเอเชียและตลาดเกิดใหม่ถ้วนหน้า
พี่ไทยไม่ต้องพูดถึงต่างชาติขายสุทธิวันนึงเฉลี่ย 3-4 พันล้าน มีวันศุร์สุดสัปดาห์ที่ยอดขายสุทธิชะลอตัวลงหน่อยแต่ถ้าดูในกลุ่ม TIPs (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) ไทยก็ถือว่าโดนหนักสุดเพราะมีปัจจัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แถมก่อนหน้านี้มีบทวิเคราะห์ของต่างประเทศออกมาบอกว่าถ้าดูตลาดในแถบอาเซียน...อินโดนีเซียถือว่าดีที่สุดตอนนี้ และเงินทุนจากต่างชาติที่มาลงทุนไทยไปลงทุนในอินโดนีเซียตอนนี้ดูจะให้ผลตอบแทนดีกว่า
แม้ช่วงปลายสัปดาห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะฟื้นกลับมาได้...จากตัวเลขเศรษฐกิจการส่งออกของสหรัฐฯที่ออกมาดี ผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดส่วนใหญ่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
แต่ถ้าพิจารณาจากกราฟก็พบว่าหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทำ NewHigh มาตลอดหลังจากข่าว Fed เริ่มถอนมาตรการ QE ในปีนี้ ก็เริ่มมีแรงเทขายออกมา...
และเริ่มเห็นบทวิเคราะห์จากสำนักข่าวต่างประเทศเริ่มตั้งคำถามว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ภาวะ "หมี" หรือยัง?
พิจารณาแนวโน้มจาก Indicator ต่างๆ สัปดาห์นี้ดาวโจนส์มีแนวต้านสำคัญที่ 16000 จุด (ณ วันศุกร์อยู่ที่ 15794.08) มีแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดคือ 15400 จุด
ดูจาก MACD ถ้าไม่ตัด 0 ขึ้น ก็คงเข้าสู่ภาวะ SidewayDown ส่วน RSI ยังยื้ออยู่ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย...
ปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้ไม่มีนัยยะสำคัญมาก เป็นตัวเลขทั่วไป ยอดค้าปลีก จำนวนคนว่างงาน ตัวเลขเศรษฐกิจจีน...
No comments:
Post a Comment