หากดูภาพรวมตลาดประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือที่ต่างชาติเรียกว่ากลุ่ม TIPs เป็น “ตระกร้า” การลงทุนเดียวกัน จะเห็นได้ว่ารูปทรงกราฟการเคลื่อนไหวของตลาดจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะเม็ดเงินที่ขับเคลื่อนหรือปัจจัยที่ดันตลาดทั้ง 3 ตลาดมาจากนัลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ
หากนับตั้งแต่ตลาดปรับตัวลดลงแรงที่สุดพร้อมกันทั้ง 3 ตลาดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ด้วยการประกาศยุติมาตรการ QE ของทางการสหรัฐฯ หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่าตลาดทั้ง 3 เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่องมาถึงครึ่งปีแรกเผชิญปัญหาทางการเมือง ทำให้ตลาดของไทย underperform ตลาดเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน
ในช่วงตลาดขาขึ้นรอบนี้ตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในช่วงตลาดขาขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556
หากเปรียบเทียบกับประเทศไทยนั่นคือ 1650 จุดที่ SET เคยทำได้เมื่อกลางปี 2556 ซึ่งไทยยังไม่สามารถขึ้นไปทดสอบได้
จากการตรวจสอบยอดซื้อ – ขายของต่างชาติพบว่า ตั้งแต่ต้นปี 2557 ต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทย 235 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซียมากถึง 4,546 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนฟิลลิปปินส์เป็นยอดซื้อสุทธิ 1,254 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้นการที่ #SET จะผ่านแนวต้าน 1600 จุดขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเก่า ณ 1650 จุด ต้องอาศัยแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติอย่างมหาศาล ซึ่งตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมาต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิ เมื่อเทียบกับอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่เป็นยอดขายสุทธิ
นัลงทุนต่างชาติเป็นปัจจุยสำคัญสำหรับด่าน 1600 – 1650 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยยังถือว่ามี Upside ถ้าพื้นฐานเศรษฐกิจไม่ได้แย่เกินไป และไม่มีปัจจัยการเมืองมากดดันให้เกิดความไม่แน่นอน เพราะสิ่งที่ต่างชาติไม่ชอบคือ “ความไม่แน่นอน”
www.facebook.com/MoneyFin
MoneyFin99.Blogspot.com
No comments:
Post a Comment